Class II 16/11/10
ยกตัวอย่างCase ที่แสดงให้เห็นความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ : MARYKAY บริษัทขายเครื่องสำอางค์ที่มีลักษณะธุรกิจคล้าย Misteen ในประเทศไทย จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ เพราะมีจำนวนพนักงานมาก ในการสั่งของสามารถเช็คสินค้าที่มีอยู่ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้ทันที ซึ่งจำเป็นต้องเกี่ยวเนื่องกันทุกหน่วยงานในองค์กร
ลำดับการจัดการของข้อมูล
Raw Data ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลลูกค้าจากฝ่ายขาย ข้อมูลสินค้าจากฝ่ายผลิต ข้อมูลการเงินจากฝ่ายบัญชี เมื่อถูกจัดการจะเป็น Information โดยเป็นการจัดการโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทั้ง Software และ Hardware ให้ข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในระบบอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน เพื่อลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล และสามารถนำไปใช้ได้ เกิดเป็น Knowledge ซึ่งเป็นการเก็บองค์ความรู้ต่างๆไว้กับองค์กร และสามารถวนกลับไปใหม่ในรูปของ Data
ระบบสารสนเทศ ช่วยให้สามารถใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น The order fulfillment Process จะมีการส่งผ่านข้อมูลข่าวสารระหว่างหน่วยงาน เริ่มจากฝ่ายขายได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้า ส่งผ่านไปให้ฝ่ายบัญชีเช็คเครดิตของลูกค้า และทำใบแจ้งหนี้ส่งต่อไปให้ฝ่ายการผลิตเพื่อเช็คของของว่ามีเพียงพอและสามารถส่งไปให้ลูกค้าได้
ประเภทของระบบ Business information system
1 Personal and Productivity System
2 Transaction processing system เช่น ระบบ Payroll, Shipping, Accounting เป็นระบบที่มีความสำคัญมากที่สุดขององค์กรเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นระบบที่ใช้เป็นประจำทุกวัน และถ้าไม่ทำการอัพเดตก็จะเกิดความเสียหายแต่องค์กร ถ้าข้อมูลนี้ซึ่งเป็นข้อมูลเริ่มต้นผิดพลาดก็จะทำให้ข้อมูลถัดไปผิดพลาดด้วย
3 Functional and Management information systems เป็นระบบสารสนเทศที่ใช้เฉพาะในหน่วยงานนั้นๆ ไม่เชื่อมต่อกับหน่วยงานอื่นๆ (แนวตั้ง) เป็นการจำกัด Authority ของพนักงานในแต่ละตำแหน่ง ในการเข้าถึงหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูล ป้องกัน Error และ fraud
- Management information systems (MIS) เป็นระบบที่ใช้สำหรับผู้บริหารระดับกลาง เช่น ต้องการยอดขายของแต่ละสาขา ทำให้สามารถนำไปใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ได้
- Decision supporter systems (DSS) เป็นระบบที่ช่วยในการตัดสินใจ ที่ไม่สามารถดูได้ด้วยตาเปล่า จำเป็นต้องใช้สถิติมาใช้ในการตัดสินใจ
- Group Decision Supporter System (GDSS) เป็นระบบที่สามารถใช้ในการตัดสินใจเป็นกลุ่ม เช่น การประชุม ช่วยลดความขัดแย้งภายในองค์กร และช่วยให้ข้อมูลสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- Executive support systems (ESS) เป็นระบบที่ใช้สำหรับผู้บริหารระดับสูง ซึ่งจะมีการรวบรวมข้อมูลมาจากทั้งภายในและภายนอก
4 Enterprise System เช่น ERP สามารถเชื่อมทุกหน่วยงานในองค์กรได้ และสามารถเชื่อมต่อไปถึงภายนอกองค์กรจากต้นน้ำไปยังปลายน้ำ เช่น Supplier หรือ Customer ได้
5 Interoganization System ระบบที่เชื่อมต่อแต่ละหน่วยงานเข้าด้วยกัน ซึ่งในบางครั้งอาจอยู่คนละสาขา หรืออยู่ในต่างประเทศ
6 Global System ระบบที่ติดต่อกันในทั่วโลก
7 Very Large and Special system เช่นระบบจองตั๋วเครื่องบิน หรือ แพคเกจทัวร์ โดยสายการบินใหญ่ ๆ แต่ละสายการบินจะมีระบบการจองตั๋วเป็นของตนเอง เช่น สายการบินที.ดับบลิว.เอ (TWA) มีระบบการจองตั๋วที่เรียกว่า ปาร์ส (Pars) และสายการบินเดลต้า (DELTA) มีระบบการจองตั๋วชื่อว่า ดาต้าส (Datas) อย่างไรก็ตามได้มีสำนักวานตัวแทนจำหน่ายตั๋วเดินทางมากกว่า 40,000 แห่ง ซึ่งคิดเป็น 90 % ของสำนักงานตัวแทนทั้งหมด ในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันได้เชื่อมต่อตรง (On-line) เข้ากับ 3 ระบบการจองตั๋วดังกล่าว นอกจากนี้สำนักงานตัวแทนจำหน่ายแต่ละแห่งยังสามารถทำการจองตั๋วเที่ยวบินต่าง ๆ ผ่านสายการบินอื่น ๆ ได้อีกด้วย จากการศึกษาพบว่าสายการบินได้จัดหาสำนักงานตัวแทนจำหน่ายและเชื่อมเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์หลักของสายการบิน หรืออาจกล่าวได้ว่าแต่ละสายการบินต้องการเพิ่มจำนวนสำนักงานตัวแทนจำหน่ายที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับระบบกลางของสายการบินนั้น ๆ
สามารถดูเพิ่มเติมที่ http://elearning.northcm.ac.th/mis/content.asp?ContentID=57&LessonID=15
8 Supply chain management systems บริหารความสัมพันธ์ระหว่าง Supplier กับองค์กร โดยแบ่งปันข้อมูลอันได้แก่ Orders, Production, Inventory levels, Delivery of products and services โดยทำให้สามารถรู้จำนวนของสินค้าที่จะส่งไปถึงจุดหมายด้วยระยะเวลาและต้นทุนที่ต่ำที่สุด
9 Customer relationship management systems (CRM) เป็นการบริหารข้อมูลระหว่างลูกค้ากับองค์กร เพื่อให้ลูกค้ามี loyalty กับองค์กรมากยิ่งขึ้นไป
10 Crowd computing
11 Knowledge management systems เป็นระบบที่เก็บองค์ความรู้ เพื่อไม่ให้ความรู้ขององค์กรหายไป ในกรณีที่คนในองค์กรออกไป คนใหม่ที่เข้ามาก็จะลดระยะเวลาในการ train และไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการศึกษางานใหม่ และเก็บ Best Practice เอาไว้ หรือเป็นการดึงความรู้ออกมาจากคนในองค์กร ให้แสดงออกมาเด่นชัด โดยระบบนี้ตั้งใจที่จะเก็บองค์ความรู้ทั้ง 2 รูปแบบ ได้แก่
1) Explicit Knowledge เป็นความรู้ที่เป็นเหตุเป็นผล สามารถรวบรวมและถ่ายทอดในรูปแบบต่างๆได้
2) Tacit Knowledge ความรู้ของแต่ละบุคคลเกิดจากประสบการณ์จากความรู้ พรสวรรค์ ซึ่งความรู้ประเภทนี้มักมีจำนวนมากกว่าความรู้ประเภทแรก และยากในการถ่ายทอดให้แก่บุคคลอื่น
ตัวอย่าง NOK เป็นบริษัทส่งออก Hard disk ของ computer ซึ่งบริษัทรู้ว่าพนักงานมี Turnover สูง บริษัทจึงจำเป็นต้นพยายามรักษาให้ Turnover ให้มีระดับต่ำ บริษัทจึงพยายามทำให้พนักงานมีความสุขที่ได้อยู่ในองค์กร และพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่พนักงาน โดยมี internet ให้กับพนักงงานสามารถเข้าถึงได้
12 Intranet เป็นเครือข่ายภายในองค์กร เพื่อเป็นการกระจายข้อมูลให้กับพนักงาน ภายในองค์กร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของข้อมูลไม่ให้ออกไปสู่ภายนอกองค์กร
13 Extranets เป็นเครือข่ายระหว่างองค์กร เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างบริษัทกับ Supplier และ ลูกค้า
14 Collaboration and communication systems เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการร่วมมือกัน และการติดต่อสื่อสารภายในองค์กร เช่น Internet-based collaboration environments , Email and instant messaging, Cell phones and Smartphone , Social networking, Wikis, Virtual worlds เช่น Games online
15 E-business (Electronic business) ทั้งนี้รวมไปถึง e-commerce เช่น การซื้อขายผ่านทางอินเตอร์เนต
16 E-government เป็นการเชื่อมต่อระหว่างรัฐบาลและสาธารณชน ผ่านทางอินเตอร์เนต เช่น การจ่ายภาษี การจองทะเบียนรถ เป็นต้น
17 Information systems department
Emergin computing environment
- Web 2.0 เป็นตัวอย่างของเว็บไซต์ที่ให้คนทั่วไปสามารถสร้าง Content ให้กับเว็บไซต์ได้ เช่น Youtube Facebook เป็นต้น ถือเป็น interactive ที่คนในปัจจุบันไมได้เข้าไปในเว็บไซต์เพียงแค่อ่าน แต่สามารถทำกิจกรรมอื่นร่วมได้ด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับคนในยุคปัจจุบัน
- Open Source Code Software บริษัทที่พัฒนา Software ต่างๆ จะพัฒนาให้ Software นั้นๆไม่เสถียร เพื่อให้จำเป็นต้องอัพเดตตลอดเวลา
- Virtualization ทำให้เทคโนโลยีเสมือน Server หลายตัวอยู่บน server ตัวเดียว เพื่อให้เพิ่มความเสถียรมากขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
Presentation
E-paper เป็นเทคโนโลยีการแสดงผลที่เลียนแบบลักษณะการใช้หมึกบนกระดาษปกติแต่แตกต่างจากจอแสดงผลแบบจอแบนโดยทั่วไป ตรงที่มีการใช้แบคไลท์ กระดาษอิเล็กทรอนิกส์นี้ทำให้สายตาไม่เมื่อยล้าอย่างจอมอนิเตอร์ปกติ นอกจากนี้ยังสามารถอ่าน เมื่อวางเป็นมุมเอียงได้ง่ายกว่าอ่านจอคอมพิวเตอร์ มีน้ำหนักเบา ทนทาน และโค้งงอได้มากกว่า เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีจอแสดงผลแบบอื่นๆ
Tablet PC คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้มีการพัฒนาให้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สะดวกในการพกพามากขึ้น นอกจากนี้การใช้งาน Tablet PC สามารถวางราบกับโต๊ะ จึงไม่เกะกะบังสายตา เช่น กรณีอยู่ในที่ประชุม ที่ต้องการให้สามารถมองหน้าผู้ร่วมประชุมขณะที่ใช้งานไปด้วย และยังสามารถใช้ปากกาเขียนด้วยลายมือของตัวเองหรือนิ้วสัมผัสได้อย่างสะดวก
ถึงอย่างไรก็ดี Tablet PC ก็มีข้อเสีย คือ
- สามารถรองรับโปรแกรมได้น้อยกว่า
- เหมาะสมกับการใช้งานคนเดียว เนื่องจากเครื่องมีความสามารถในการจดจำลายมือของผู้ใช้
- มีโอกาสที่หน้าจอจะเสียหายมากกว่า Laptop เนื่องจากการใช้ Stylus
- การบันทึกข้อมูลใดๆ จะช้ากว่า Laptop
- ราคาแพง
Green IT คือ แนวคิดในการบริหารจัดการและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการการใช้พลังงาน ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการสร้างขยะ รวมถึงการนำขยะอิเลคทรอนิคส์มารีไซเคิลใหม่อีกด้วย
5202112685
5202112685
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น